นำเข้าสู่บทเรียน

เทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน



 
ก่อนที่เราจะออกกำลังกายก็ได้รับคำแนะนำว่า เราควรจะเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนที่เรียกกันว่าการอบอุ่นร่างกายหรือวอร์มอัป (warm up) เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมและป้องกันการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ในทำนองเดียวกันก่อนที่จะทำกิจกรรมใดๆ หากได้มีการเกริ่นนำหรือเตรียมความพร้อม หรือพูดกันโดยทั่วไปว่า “อุ่นเครื่อง” ก็จะทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมรู้ว่ากำลังจะทำกิจกรรมใด ซึ่งจะทำให้รู้สึกกังวลว่าจะทำได้หรือไม่ ลดน้อยลงหรือหมดไป กิจกรรมการนำเข้าสู่บทเรียนก็เช่นเดียวกัน เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนได้เตรียมความพร้อม ป้องกันไม่ให้นักเรียนเกิดการบาดเจ็บในการเรียนรู้ ซึ่งก็คือ เกิดความไม่เข้าใจในเนื้อหา สับสนกังวลใจ เบื่อหน่ายการเรียน หรือเรียนอย่างไม่มีความสุข
ความหมาย
ความหมายของคำว่า “นำ” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2542 หมายถึงเริ่มต้นโดยมีผู้อื่นหรือสิ่งอื่นตาม ฉะนั้นคำว่า “นำเข้าสู่”ก็เป็นการเริ่มต้นไปสู่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ส่วนคำว่า “บทเรียน” หมายถึง คำสอนที่กำหนดให้เรียน (ราชบัณฑิตยสถาน, 2546: 578,602) ฉะนั้นตามรูปศัพท์ “การนำเข้าสู่บทเรียน” หมายถึงการเริ่มต้นเพื่อไปสู่เนื้อหาสาระหรือคำสอนที่กำหนดให้เรียน
                ศักดิ์ศรี  ปาณะกุลและคณะ (2549: 167) อธิบายว่า การนำเข้าสู่บทเรียน หมายถึง การกระตุ้นและเร้าความสนใจของนักเรียนให้มีต่อบทเรียน ทำให้นักเรียนมีความพร้อมและมีความกระตือรือร้นที่จะเรียน นักเรียนรู้ว่าจะเรียนเรื่องอะไร โดยที่ครูไม่ต้องบอกโดยตรงและนักเรียนยังสามารถนำความรู้เดิมมาสัมพันธ์กับบทเรียนใหม่ได้อย่างถูกต้อง
                อรภัทร  สิทธิรักษ์ (2540: 121) อธิบายว่า การนำเข้าสู่บทเรียน หมายถึง การจัดกิจกรรมก่อนเริ่มสอนเนื้อหาในทุกวิชา เพื่อเป็นการเตรียมนักเรียนให้รู้ว่ากำลังเรียนเรื่องอะไร โดยนำเอาความรู้และทักษะที่นักเรียนมีอยู่เดิมมาสัมพันธ์กับบทเรียนที่ครูสอน ซึ่งจะทำให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ชัดเจนขึ้น
                ชมนาท  รัตนมณี (2541: 320) กล่าวว่า การนำเข้าสู่บทเรียน หมายถึง กิจกรรมที่จัดขึ้นเมื่อครูจะเริ่มสอนหรือจะทำกิจกรรมใดๆ เพื่อเตรียมให้นักเรียนเกิดความสนใจ พร้อมที่จะติดตามบทเรียนต่อไป และรู้ว่าจะเรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไรทำให้มีจุดมุ่งหมายการเรียนชัดเจนยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์ของการนำเข้าสู่บทเรียน
การนำเข้าสู่บทเรียนเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และหากกิจกรรมนี้เริ่มต้นได้ไม่ดี กิจกรรมการเรียนการสอนอื่นๆที่ตามมาก็ได้รับผลกระทบด้วย การนำเข้าสู่บทเรียนมีวัตถุประสงค์หลายประการ ดังรายละเอียดข้างล่างนี้
เสริมศรี  ลักษณศิริ  (2540: 319) อธิบายว่า กิจกรรมการนำเข้าสู่บทเรียนเป็นกิจกรรมที่ครูทำเมื่อเริ่มต้นของการสอน มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนมาอยู่ที่การสอนของครู และเป็นการเตรียมนักเรียนให้มีสมาธิในการฟังเรื่องที่ครูจะสอน เป็นการทำให้นักเรียนเข้าใจความหมายของบทเรียนชัดเจนขึ้น นักเรียนรู้ว่าต่อไปจะเรียนเรื่องอะไรและสามารถนำเอาความรู้และเทคนิคที่นักเรียนมีอยู่เดิมมาสัมพันธ์กับบทเรียนที่ครูจะสอนต่อไปได้ การนำเข้าสู่บทเรียนอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยทำให้วัตถุประสงค์ของการเรียนนั้นๆชัดเจนขึ้นเพราะนักเรียนถูกดึงให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนด้วย
สุวรรณี  ศรีคุณ  (2527: 187  อ้างถึงใน อินทิรา  บุณยาทร, 2542: 218) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการนำเข้าสู่บทเรียน ก็เพื่อเร้าความสนใจของนักเรียนให้นกเรียนมีความคิดว่ากำลังเรียนเรื่องอะไร และสามารถนำเอาความรู้และเทคนิคเดิมที่มีอยู่มาสัมพันธ์กับเรื่องที่เรียนก็จะทำให้เข้าใจบทเรียนใหม่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการนำเข้าสู่บทเรียน
โดยทั่วๆ ไปครูที่มีความชำนาญในการสอนมักจะใช้เวลาสั้นๆ เพียง 5-10 นาที จัดกิจกรรมก่อนเริ่มการเรียนการสอนเนื้อหา เพื่อเตรียมความพร้อมของนักเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนปรับประสบการณ์เดิมให้พร้อมที่จะประสานกับประสบการณ์ใหม่ และให้นักเรียนเข้าใจจุดมุ่งหมายของบทเรียนที่จะเรียนได้ดีขึ้น ถ้าครูมีเทคนิคในการนำเข้าสู่บทเรียนและนำไปใช้อย่างได้ผลก็จะทำให้เกิดผลดี ดังนี้(พึงใจ สินธวานนท์และคณะ, 2520: 349 อ้างถึงใน เสริมศรี  ลักษณศิริ, 2540:319)
1.       สามารถเรียกร้องความตั้งใจของนักเรียนให้พร้อมที่จะเรียน
2.       สามารถเร้าและจูงใจให้นักเรียนคงความสนใจในบทเรียน
3.       สามารถบอกลักษณะและวิธีการสอนของเรื่องที่จะเรียนได้
4.       สามารถเชื่อมโยงความรู้เดิมกับเรื่องที่จะเรียนต่อไปได้
เฉลิม  มลิกา  (2526: 12) กล่าวถึงคุณค่าและประโยชน์ของการนำเข้าสู่บทเรียน ดังนี้
1.       ช่วยให้นักเรียนเกิดความพร้อมในการเรียนรู้
2.       ช่วยนักเรียนให้สามารถเรียนรู้ประสบการณ์ได้อย่างมีความหมาย โดยง่ายยิ่งขึ้น
3.       ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจ ใฝ่รู้และเรียนด้วยความสนุกสนาน
4.      เป็นการปูพื้นฐานความรู้ ความคิด และแนวทางการประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน ประสบการณ์ใหม่ระหว่างครูและนักเรียนในเบื้องต้น
5.       เป็นสื่อเชื่อมโยงสัมพันธภาพที่ดีระหว่างนักเรียนครูก่อนดำเนินการสอนในชั้นต่อไป
6.       ช่วยให้นักเรียนเกิดมโนทัศน์ (Concapts) ที่ดีและถูกต้อง
7.         เป็นวิธีการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมกับประสบการณ์ใหม่ให้มีความสัมพันธ์หรือต่อเนื่องกันอย่างมีความหมาย
8.         ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ การทำกิจกรรม และการมีสุขภาพจิตที่ดีของนักเรียนและครู
9.       ช่วยทำให้นักเรียนสามารถทำความเข้าใจบทเรียนได้ดีและรวดเร็วขึ้น
10.    ช่วยพัฒนาทัศนคติในการเรียนที่ดีให้กับนักเรียน
11.      เป็นช่องทางผ่อนแรงในการสอนของครู ให้สามารถกระทำได้โดยง่าย รวดเร็วและทำได้ผลดีตรงตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้
12.    ผลป้อนกลับ (Feedback) จากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน นับเป็นปัจจัยที่ช่วยในการปรับปรุงทักษะและวิธีการนำเข้าสู่บทเรียนของครูในครั้งต่อไปให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการใช้กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน
                กล่าวโดยทั่วไปได้ว่า ในการเริ่มต้นของการสอนแต่ละครั้ง ครูควรเริ่มด้วยกิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน นอกจากนี้ ศักดิ์ศรี  ปาณะกุลและคณะ (2549: 167) ได้แนะนำสถานการณ์เฉพาะที่ควรใช้ทักษะการนำเข้าสู่บทเรียน ดังนี้
1.       เมื่อเริ่มเรื่องหรือเริ่มบทเรียนใหม่ เพื่อโยงเข้าสู่เรื่องที่จัดการเรียนรู้
2.       เมื่อจะมอบหมายการบ้านหรือการทำงาน เพื่อแนะนำวิธีการทำงานนั้น
3.       เมื่อเตรียมการอภิปราย เพื่อแนะนำให้นักเรียนดำเนินการได้ตรงตามเป้าหมาย
4.         ก่อนที่จะให้นักเรียนดูภาพยนตร์ ภาพนิ่ง วีดีทัศน์ ฟังวิทยุและเทป เพื่อให้นักเรียนจับประเด็นของเรื่องที่ดูหรือฟังนั้นได้
เฉลิม  มลิลา (2526: 15) ได้ให้รายละเอียดของช่วงเวลาในการนำเข้าสู่บทเรียน ดังนี้
1.       ใช้เมื่อจะเริ่มต้นบทเรียน หรือเริ่มเรื่อง
2.       ใช้นำก่อนอธิบายและซักถามเนื้อหา
3.       ใช้นำก่อนการวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และสรุปสัมพันธ์แนวคิด หรือเนื้อหาสำคัญ
4.       ใช้เพื่อเตรียมการอภิปราย
5.       ใช้นำเพื่อสื่อความหมาย จุดประสงค์ และวิธีการประกอบกิจกรรมของนักเรียนที่ครูกำหนดให้
6.       ใช้นำเพื่อจะใช้เทคนิคการสอนแบบศูนย์การเรียน
7.       ใช้นำเมื่อจะใช้สื่อการเรียนการสอน
8.         ใช้ก่อนที่จะเสนอแนะให้นักเรียน เรียนบทเรียนจากภาพสไลด์ แผนที่ ฟิล์มสตริพ ภาพยนตร์ วิทยุ และโทรทัศน์
9.         ใช้เพื่อสื่อแนวความคิด และวิธีการทำงานที่ได้รับมอบหมายเป็นแบบฝึกหัดหรือการบ้าน และงานค้นคว้านอกเวลา ฯลฯ
10.      ใช้เพื่อนำการแสดงบทบาท เล่าเรื่อง รายงานหรือการสาธิตประสบการณ์ของนักเรียนเป็นคณะหรือรายบุคคล
การเตรียมตัวเพื่อจัดกิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน
                ในการเตรียมเพื่อจัดกิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน ครูควรรู้ข้อมูล เทคนิค วิธีการที่สำคัญบางประการ เพื่อใช้ในการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมและเพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมให้ได้อย่างดีที่สุด
                สุวรรณี  ศรีคุณ (2527: 187 อ้างถึงใน อินทิรา  บุณยาทร, 2542: 218) กล่าวถึงเวลาที่ใช้ในการนำเข้าสู่บทเรียนว่า ถ้าช่วงเวลาที่สอน 50-60 นาที จะใช้เวลาทำกิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียนประมาณ 5-10 นาที ซึ่งครูควรเตรียมการในกิจกรรม ดังต่อไปนี้
1.       ศึกษาเนื้อเรื่องที่จะสอน และพิจารณาเลือกกิจกรรมให้เหมาะสม
2.         ศึกษากิจกรรมที่จะนำมาใช้ให้เข้าใจวิธีการ เช่น การเล่านิทานโดยใช้หุ่นก็ต้องรูวิธีการเชิดหุ่นให้สนุก เป็นต้น
3.      ควรรู้ประสบการณ์หรือความรู้เดิมของนักเรียน เพื่อหาวิธีการให้นักเรียนสนใจยิ่งขึ้น เพราะถ้าไม่มีประสบการณ์เดิมเลย การเชื่อมโยงความรู้ก็จะทำไม่ได้
 เสริมศรี  ลักษณศิริ (2540: 321) ได้เสนอข้อแนะนำในการนำเข้าสู่บทเรียนไว้สอดคล้องกับข้างต้น ดังนี้     
1.       ครูควรรู้ประสบการณ์ หรือความรูเดิมของนักเรียนเพื่อหาวิธีที่ทำให้นักเรียนสนใจ
2.       ศึกษาเรื่องที่จะสอน แล้วพิจารณาเลือกกิจกรรมนำเข้าสู่หน่วยให้ผสมกลมกลืนกัน
3.      ศึกษากิจกรรมที่จะนำมาใช้ให้ถ่องแท้ เช่น จะเล่านิทานก็ต้องจำเรื่องราวของนิทานให้แม่นยำ ใช้สำนวนภาษาของบทสนทนาในเรื่องให้สนุกสนาน
เทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน
                เทคนิคใดบ้างที่ครูควรใช้หรือเลือกใช้ในการนำเขาสู่บทเรียน  เป็นสิ่งที่ครูต้องคำนึงถึงและบรรจุลงไปในแผนการสอน                                                                       
                เสริมศรี  ลักษณศิริ  (2540: 320) กล่าว่า การนำเข้าสู่บทเรียนอาจจะทำได้ ดังต่อไปนี้ คือ
1.       ใช้อุปกรณ์ที่สัมพันธ์กับเนื้อหาวิชา เช่น ใช้ของจริง หุ่น รูปภาพ
2.       ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่สัมพันธ์กับบทเรียน
3.       สนทนาซักถามและเชื่อมโยงไปยังเรื่องที่จะสอน
4.       ร้องเพลง หรือเล่นละคร หรือการแสดงบทบาทสมมติ
5.       ตั้งปัญหา ทายปัญหา
6.       ทบทวยนบทเรียนเดิมที่สัมพันธ์กับบทเรียนใหม่
7.       เล่านิทาน เล่าเรื่องราว เล่าเหตุการณ์ต่างๆ
8.     สาธิต ทดลอง เพื่อนำเข้าสู่เรื่องราวที่จะสอน เช่นครูอาจเรียกเด็กหลายคนออกมาสาธิตการไหว้แบต่างๆการทำความเคารพ   เพื่อเชื่อมโยงเข้ากับการาสอนเรื่องราววิธีทำความเคารพ เป็นต้น
จำเริญ  ชูช่วยสุวรรณ  (2544: 167) ได้เสนอวิธีการนำเข้าสู่บทเรียนไว้หลายวิธีดังนี้
1.       โดยการใช้อุปกรณ์ เช่น ภาพ หุ่นจำนอง วีดิโอ วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ เป็นต้น
2.       โดยการร้องเพลง ครูอาจจะนำเพลงที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนมาร้องให้นักเรียนฟังหรือให้ช่วยกันร้อง
3.       โดยการเล่านิทาน เล่าเรื่อง หรือเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นให้สัมพันธ์ หรือสอดคล้องกับบทเรียนที่ครูกำลังจะสอน
4.     โดยการซักถาม เช่น ซักถามเพื่อทบทวนสิ่งที่ได้เรียนมาแล้ว หรือซักถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของนักเรียนแล้วโยงไปสู่เรื่องที่ครูจะสอน
5.       โดยการตั้งปัญหา หรือทายปัญหา
6.       โดยให้นักเรียนแสดง เช่น แสดงบทบาทสมมติ
จากที่กล่าวมา รวบรวมเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจที่ครูสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน ดังนี้
1.       ใช้อุปกรณ์ที่สัมพันธ์กับบทเรียน เช่น ใช้ของจริง หุ่น รูปภาพ
2.       ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่สัมพันธ์กับบทเรียน
3.       สนทนาซักถามแล้วเชื่อมโยงไปยังเรื่องที่จะสอน หรือ ตั้งปัญหา ทายปัญหา
4.       ร้องเพลง หรือเล่นละคร การแสดงบทบาทสมมติหรือให้นักเรียนทำพฤติกรรมประกอบทาทางให้สอดคล้องกับบทเรียน
5.       เล่านิทาน เล่าเรื่องราว เล่าเหตุการณ์ต่างๆ
6.       ทบทวนบทเรียนเดิมที่สัมพันธ์กับบทเรียนใหม่
7.       สาธิต ทดลอง
8.       ให้ฟังเสียงต่างๆ เช่น ดนตรี สียงระฆัง เสียงวิทยุ ฯลฯ


Find more videos like this on Faculty of Education คณะครุศาสตร์





http://www.youtube.com/watch?v=TTA7ldh0LRo